The Day After Tomorrow (วิกฤติวันสิ้นโลก) คุณมีส่วนในการที่ทำลายโลกนี้ไหม? จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวันนึง คุณต้องพบกับคลื่นทะเลยักษ์ที่สูงมากกว่าตึก 10 ชั้น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณต้องพบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายที่ติดลบมากกว่า -50 องศา คุณจะทำยังไงกับวิกฤติครั้งนี้
The Day After Tomorrow เป็นภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับหายนะทางธรรมชาติ เนื้อหามีทั้งสิ่งที่เป็นไปได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ และสิ่งที่แต่งเติมขึ้น โดยเริ่มออกฉายครั้งแรกในเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2547 และทยอยออกฉายทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 28 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีกำหนดฉายในวันที่ 4 และ 5 มิถุนายน ตามลำดับ

เนื้อเรื่องหลัก
ในการสำรวจดินแดงน้ำแข็ง ในแอนตาร์คติก แจ็ค ฮอลล์ (เดนนิส เควด) นักกาลวิทยา ผลที่ได้จากการค้นคว้าของฮอลล์ระบุว่า สภาวะโลกร้อนอาจเป็นชนวนหายนะแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ของภูมิอากาศโลก เขาพบความผิดปกติบางอย่าง เขาพบว่ามีการแยกตัวของน้ำแข็ง เป็นบริเวณที่ยาวและ กว้างมาก เขาจึงรีบเสนอข้อมูลนี้ในที่ประชุม เขาได้ส่งคำเตือนไปยังหน่วยราชการ ว่ามันอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง หากไม่มีการดำเนินการโดยทันที



แต่รองประธานาธิบดีกลับไม่เชื่อ แต่ว่า ศจ. เทอร์รี แร็ปสัน (เอียน โฮล์ม) หัวหน้าศูนย์วิจัยภูมิอากาศในสกอตแลนด์ เชื่อในทฤษฎีของแจ็ค ฮอลล์ เพราะว่าทุ่นที่วัดอุณหภูมิในมหาสมุทรแอตแลนติกในทะเล วัดได้อุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติมาก จึงสรุปความได้ว่า เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย มาปะปนกับน้ำทะเล ทำให้มีความผิดปกติ เมื่อมีความผิดปกติที่เริ่มเกิดขึ้นทั่วโลก นักบินอวกาศก็ได้ข้อมูลมาเพิ่มเติมว่า มีพายุหิมะกำลังก่อตัว ลูกใหญ่มหาศาลมาก และอุณหภูมิก็ติดลบลงถึง -101 องศา




ในขณะเดียวกัน แซม ฮอลล์ (เจค จิลเลนฮอล) ลูกชายของแจ็ค กำลังเดินทางไปร่วมตอบคำถาม กับเพื่อนร่วมชั้น ลอร่า และ แชปแมน (Emmy Rossum) และได้มีเหตุการณ์คลื่นลูกยักษ์ ซัดเข้าเมืองโดยไม่ทันตั้งตัว และขณะกำลังหนี ขาของลอร่า ก็พาลไปขูดกับรถ ทำให้เกิดแผล และติดเชื้อในเวลาต่อมา แซมจึงคิดว่าจะหาทางออกไปหายา เพื่อจะช่วยเพื่อนสาวที่เขาแอบปลื้ม




แซม ฮอลล์ ได้โทรหาพ่อของเขาและบอกถึงสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นยังไง เค้าหลบในหอสมุดประชาชนนิวยอร์ก แจ็ค ฮอลล์ พยายามเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อหาทางไปช่วยลูกชายของเขา โดยที่ต้องฝ่าพายุเข้าไปอย่าง ยากลำบาก ตัวแซมเอง ก็ต้องการออกมาหาอาหาร และ ยาเพื่อใช้กับลอร่า ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะถ้าออกมาข้างนอก จะแข็งตายในทันที



ประธานาธิบดีเบลค (เพอร์รี่ คิง) ประกาศอพยพประชาชนลงทางใต้ ส่วนแจ็กและเพื่อน 2 คน คือ เจสันและแฟรงค์ ออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อช่วยแซม ระหว่างเดินทางนั้น แฟรงค์ทะลุลงไปในหลังคากระจก ของห้างสรรพสินค้าที่ถูกหิมะปกคลุม แฟรงค์ตัดสินใจสละชีวิต เพื่อไม่ให้แจ็ก และ เจสันตกลงไปด้วยกัน

ในขณะเดียวกัน ผู้ลี้ภัยในหอสมุดออกเดินเท้าออกไปข้างนอก เมื่อพื้นเริ่มเป็นน้ำแข็ง แซมพยายามห้ามทุกคน ว่าอย่าออกไปข้างนอก เพราะว่าจะมีพายุลูกใหม่กำลังมา แต่แซมก็ไม่สามารถห้ามได้ เพราะทุกคนกำลังขาดอาหาร เหลือเพียงแค่แซมและเพื่อน ๆ กับผู้ลี้ภัยไม่กี่คนที่ยังคงอยู่ที่นี่



พวกเขาก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่น และกินอาหารจากตู้ขายอาหาร ส่วนรองประธานาธิบดีเบคเกอร์ ที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในเม็กซิโกทราบข่าวขบวนรถของประธานาธิบดีเบลคติดพายุ และ เสียชีวิตทั้งหมด ทำให้รองประธานาธิบดีเบคเกอร์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่


เช้าวันต่อมา แซมพบว่าลอร่าป่วย และติดเชื้อ จากแผลที่ได้รับบาดเจ็บ แซมและเพื่อน ๆ จึงไปหายารักษาในเรือสินค้า ที่ลอยเข้ามา ก่อนจะหนีฝูงหมาป่าและ อุณหภูมิเยือกแข็งอย่างรวดเร็ว กลับไปที่หอสมุด ส่วนแจ็ก พาเจสันที่หมดสติ ไปหลบในร้านอาหารเมื่อพบกับอุณหภูมิเยือกแข็ง




หลายวันต่อมา เมื่อพายุสลายตัว แจ็กและเจสัน ไปถึงนครนิวยอร์ก และพบกับกลุ่มของแซม ก่อนจะรายงาน ไปที่ประธานาธิบดีเบคเกอร์ ให้ส่งคนมาช่วยผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น ๆ และนักบินอวกาศ มองเห็นซีกโลกเหนือ ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และกลับมาสดใสอีกครั้ง


หนังภัยพิบัติเรื่องนี้ ที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ มันอาจเกิดขึ้นจริงได้บนโลกเรา ในสักวัน อาจจะไม่ใหญ่เบอร์นี้แต่ก็ไม่มีใครการันตีถึงความร้ายกาจของภัยธรรมชาติได้ ยิ่งมาผนวกกับประเด็นโลกร้อน ในหนังที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ก็ยิ่งให้การดูหนังเรื่องนี้มีความหวาดกลัว และในปัจจุบันที่สถาณการณ์โควิดระบาด มันยิ่งเหมือนกับว่าธรรมชาติพยายามจะบอกอะไรเราสักอย่าง

เรื่องของความบันเทิง ความมันส์ หายห่วงแน่นอน เพราะถ้าพูดถึงหนังหายนะดี ๆ สักเรื่อง ก็คิดว่า น่าจะมีเรื่องนี้ติดไปด้วยอย่างแน่นอน ภาพเทคนิคพิเศษสมจริง ส่วนเนื้อเรื่อง ก็ตามตัวละครหลักในเรื่อง รู้ตามตัวหลัก และสถานการณ์ ที่บางฉากสามารถเรียกความเอาใจช่วย จากคนดูได้ดี

หนังแสดงถึงความเลวร้าย ที่เพิ่มมากขึ้นตามที่หนังสื่อผ่านตัวละคร คือเมื่อน้ำทะเล ถูกปนเปื้อนด้วยน้ำจืดมากเกินไป ส่งผลให้น้ำทะเลเกิดความผันผวน ไม่คงที่ จากนั้นภูมิอากาศ ก็เริ่มจะแปรปรวน หิมะตกในที่ที่ไม่เคยตก อย่างกรุงนิวเดลี จากนั้นความเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อฝนตกอย่างบ้าระห่ำ ที่กรุงนิวยอร์ค แล้วความบ้าคลั้งของทะเล ก็เริ่มส่งผลทำให้เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้าฝั่ง เกิดน้ำท่วมชั่วขณะ และอุณหภูมิก็ค่อย ๆ ลดลง จากเย็น หนาว จนสุดท้ายกลายเป็นเยือกแข็ง ชนิดที่ว่าถ้าแค่สัมผัสอากาศก็หนาวตายในทันที นี้คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่หนังค่อย ๆ พาเราไป
สิ่งที่หนังสื่อ อาจทำให้ผู้คนหวาดกลัว และมีคำถาม ว่าจะเกิดขึ้นจริงไหม เกิดขนาดนี้เลยไหม และเมื่อไหร่ ในเรื่องการประเมินที่แม่นยำของแจ็ค บอกไว้ว่าอาจจะเกิดในร้อยปี หรือพันปี แต่เกิดแน่ ๆ แต่สุดท้าย ก็เกิดหลังจากการวิเคราะห์เพียงไม่กี่วัน คำตอบคือ ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะมีภาวะแบบนี้เกิดเมื่อใด แต่อีกส่วนก็อยู่ที่เราทุก ๆ คน ว่าจะทำให้โลกใบนี้ ตั้งรับภาระอีกมากแค่ไหน
สรุป
เนื้อหามีความน่าสนใจ และตื่นเต้น เชิงเป็นการเตือนในเรื่องของภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ในวันนึง อาจจะช้า หรือเร็ว ผู้สร้างก็อาจจะอยากเตือนให้ผู้คนตระหนัก และเลิกทำให้โลกร้อน ไม่งั้นเรื่องราวเหล่านี้อาจจะเกิดในยุคที่เรายังคงมีชีวิตอยู่ ให้มนุษย์ตระหนัก เรื่องโลกร้อน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว อีกหลายร้อยปีกว่าจะเกิด คงจะตายไปแล้ว แต่ลองคิดถึงรุ่นลูก รุ่นหลานดูสิครับ และในระหว่างที่จะถึงร้อยปีนั้น ก็เกิดภาวะความผิดปกติทางอากาศ สภาพแวดล้อมมากมายนับไม่ถ้วนในทุกๆวัน
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก ufabet.com